โดยปกติเวลาที่เรากินอาหารที่ชอบ มีรสอร่อย เราจะรู้สึกมีความสุข แต่หากเราต้องถูกบังคับให้กินอาหารที่เราไม่ชอบ รสชาติไม่อร่อย เราก็มักจะกินได้น้อยตามไปด้วย แต่ปัญหาที่พบบ่อยในเด็กวัยปฐมวัย (ช่วงอายุ 2-3 ขวบ) ก็คือ ทำไมลูกของเราถึงเลือกที่จะกินอาหารบางอย่าง และไม่ยอม (บังคับเท่าไรก็ไม่ยอม) กินอาหารบางอย่าง วันนี้เรามีคำตอบและทางแก้ไขค่ะ
สาเหตุใหญ่ๆ ที่เด็กเลือกกินอาหารนั้น เกิดจาก 8 สาเหตุใหญ่ๆ ดังนี้
- พ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูเคยบังคับให้ลูกกิน
ผู้ใหญ่ไม่ชอบถูกบังคับ เด็กก็ไม่ชอบถูกบังคับเช่นกัน
แต่การบังคับให้กินนั้นอาจจะไม่ได้มาในรูปแบบของการจับยัดเข้าปาก
แต่เป็นในรูปแบบของการใช้คำพูด น้ำเสียงต่างๆ ก็ได้เช่นกัน เช่น
– กินอันนี้สิลูก อร่อยนะ (ใช้คำพูดไปบังคับให้ลูกกิน)
– ทำไมไม่อยากกินละ กินอันนี้แล้วจะผิวสวยน่ารักนะ (ไปหลอกล่อให้ลูกกิน)
– กินๆ เข้าไปเถอะลูก อย่าเรื่องมากเลย (ถากถางลูก)
– ไม่กินก็อย่ากิน หิวจนปวดท้องอย่ามาร้องนะ (ลงโทษกับเรื่องกิน)
ฯลฯ
ประโยคเหล่านี้มันฝังลงไปในใจเด็ก ซึ่งในช่วงปฐมวัยนี้ เด็กจะเก็บข้อมูลทุกๆ อย่างเอาไว้แล้วเปลี่ยนเป็นประสบการณ์ต่างๆ (ทั้งด้านที่ดีและไม่ดี) เมื่อพ่อแม่เคยบังคับลูกให้กิน ลูกก็จะพยายามต่อต้านนั้นเอง
- พ่อแม่ให้ลูกกินมากเกินไป (กลัวไม่อิ่ม)
กระเพาะของเด็กและผู้ใหญ่นั้นแตกต่างกันมาก
กระเพาะอาหารของเด็กในช่วงปฐมวัยนี้จะมีขนาดเล็ก
เด็กจะวิ่งเล่นและเผาผลาญพลังงานไปมาก จึงอาจจะมีการหิวระหว่างมื้อบ่อย
พ่อแม่หลายคนจึงกลัวลูกจะหิวหรือกินไม่อิ่ม เลยให้ลูกกินทั้งข้าว ทั้งนม
เมื่อถึงมื้ออาหารถัดไปก็ยังบังคับให้ลูกกินอีก (ทั้งๆ ที่ยังอิ่มอยู่)
ถ้าเด็กไม่กินก็บังคับสารพัดทั้งคำพูด จับป้อน ฯลฯ ทำให้ลูกรู้สึกทรมาน
(อึดอัด) เวลาต้องกินอาหาร
- หน้าตาอาหารดูไม่น่ากินและทำอาหารเดิมๆ ซ้ำๆ
กินอาหารเดิมๆ ซ้ำๆ ผู้ใหญ่ยังเบื่อ แถมหน้าตาอาหารดูเละๆ
ยิ่งไม่กินเข้าไปใหญ่ แล้วคิดเหรอว่าเด็กจะไม่รู้สึกเหมือนกับผู้ใหญ่บ้าง
พ่อแม่บางคนกลัวลูกจะกินลำบาก ก็ทำอาหารให้ลูกย่อยง่ายๆ (จนมันดูเละๆ
ไม่น่ากิน) หรือทำแต่เมนูเดิมๆ (ข้าวไข่เจียว, แกงจืดเต้าหู้ ฯลฯ)
เด็กกินไป 2-3 ครั้งก็เริ่มเบื่อ
พ่อแม่ควรที่จะเปลี่ยนเมนูอาหารให้ลูกเรื่อยๆ อย่าซ้ำเดิมมากเกินไป
ควรเพิ่มความหลากหลายของอาหาร อาจจะมีทั้งเมนูอาหารแบบไทย จีน ฝรั่ง
บ้างสลับกันไป รวมถึงการหั่นส่วนผสมให้พอดีคำ
ไม่เล็กไปหรือใหญ่เกินไปสำหรับเด็ก
เพราะหากเด็กต้องเคี้ยวมากเกินไปเด็กก็จะเบื่อการเคี้ยวอาหาร
- พ่อแม่ไม่เคยฝึกลูกให้หัดเคี้ยวอาหาร
ในช่วงที่ฟันของลูกกำลังจะขึ้นนั้น (เริ่มประมาณ 9 เดือน)
โดยธรรมชาติแล้วเด็กจะมีอาการคันเหงือก (หมั่นเขี้ยว) อยากจะเคี้ยวอาหาร
พ่อแม่สามารถฝีกให้ลูกหัดเคี้ยวอาหารได้ง่ายๆ
ด้วยการให้ลูกลองเคี้ยวขนมปังกรอบชิ้นเล็กๆ เด็กจะมีความสุขในการเคี้ยว
เมื่อโตขึ้นก็ค่อยๆ เพิ่มขนาดของอาหารที่จะให้ลูกเคี้ยว
ซึ่งสามารถปรับเป็นผักที่มีความกรอบ เนื้อสัตว์ที่นุ่ม (แต่มีขนาดพอดีคำ)
- ลูกกำลังมีปัญหาสุขภาพ
หากลูกไม่สบาย หรือปวดฟัน ความอยากอาหารจะลดน้อยลง ซึ่งพ่อแม่ต้องเข้าใจด้วยว่าเป็นธรรมชาติของเด็กที่ไม่สบายก็มักจะไม่อยากอาหารใดๆ
- ลูกกินขนมหรือนมจนอิ่ม
บ่อยครั้งที่ระหว่างมื้ออาหาร เด็กในช่วงปฐมวัยจะมักหิว
(เพราะไปเล่นมาจนเหนื่อย) พ่อแม่บางคนก็ให้ลูกกินขนม รวมถึงกินนม
(บางครอบครัวให้ลูกกินนมเยอะแทบจะแทนน้ำ) ทำให้เวลาถึงมื้ออาหารจริงๆ
ลูกไม่ได้อยากทานอาหาร เพราะยังไม่หิวมากนั้นเอง
- เล่นสนุกจนลืมหิว หรือเหนื่อยเกินไป
เวลาที่ผู้ใหญ่ทำอะไรที่มีความสุข สนุกสนาน เพลินๆ
ส่วนมากจะไม่รู้สึกหิว เด็กในช่วงปฐมวัยก็เช่นกัน
หลายครั้งที่เด็กเล่นจนเพลินจนไม่รู้สึกหิวเลยก็มี
จนบางครั้งพ่อแม่ก็กังวลว่า เดี๋ยวลูกจะหิวก็รีบบังคับให้ลูกกิน ณ
เวลานั้นทันที ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อลูกเลย
รวมถึงบางครั้งพ่อแม่หลายคนมักจะปล่อยให้ลูกเล่นๆๆๆ ไปเรื่อยๆ พอถึงเวลา
(มื้ออาหาร) ก็เรียกลูกมากินอาหาร
ซึ่งการปล่อยให้ลูกเล่นมากเกินไปจนลูกเหนื่อย
เมื่อเหนื่อยแล้วจะให้มากินอาหารทันทีเลยจะยากกว่ามาก
- พ่อแม่ก็เลือกที่จะกินอาหารเหมือนกัน
ปัญหาพ่อแม่ไม่กินผักหรือกินอาหารประเภทใด ลูกๆ
ก็มักจะไม่กินอาหารประเภทนั้นตามไปด้วย เพราะลูกจะจดจำสิ่งที่พ่อแม่ทำ
ดังนั้นอย่าแปลกใจว่า ทำไมลูกของเราถึงไม่กินอาหารที่คุณเลือกไว้
พ่อแม่สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาอาการลูกเบื่อหรือเลือกกินอาหารได้ง่ายๆ
- กินอาหารพร้อมหน้าพร้อมตา
เวลาที่พ่อแม่ลูกได้ล้อมวงกินอาหารในแต่ละมื้อ ได้พูดคุย
ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นการสร้างบรรยากาศที่ลูกจะซึมซับความสนุกสนาน
รวมถึงควรจะกินอาหารเป็นเวลา (ตามมื้ออาหาร) อย่างสม่ำเสมอ
ลูกจะซึมซับว่าเวลานี้คือเวลาที่ต้องกินข้าวแล้ว
(เพราะพ่อแม่ก็จะมากินอาหารด้วย)
นอกจากนั้นการให้โอกาสเด็กได้มีส่วนร่วมในแต่ละมื้ออาหารก็ทำให้เด็กรู้สึก
สนุกไปกับการกินด้วย เช่น
ให้ลูกหัดเป็นคนหยิบช้อนอาหารจากที่เก็บไปที่โต๊ะอาหาร หรือจัดโต๊ะอาหาร
เตรียมน้ำดื่ม ฯลฯ ในระหว่างมื้ออาหารไม่ควรเปิดโทรทัศน์ไปด้วย
เพราะโทรทัศน์จะเป็นตัวดึงความสนใจของเด็กและพ่อแม่ออกจากกัน
- ชิ้นเล็กดีกว่าชิ้นใหญ่
การเตรียมอาหารให้มีขนาดชิ้นเล็กพอดีคำ เคี้ยวง่าย
เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เด็กอยากกินอาหารหรือไม่
นอกจากนั้นควรจะทำอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่
- พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี
เพราะลูกจะเลียนแบบพ่อแม่ แม้กระทั่งเรื่องกินก็เช่นกัน
ถ้าพ่อแม่กินอาหารทุกอย่างด้วยความอร่อย เด็กก็จะกินตาม
พ่อแม่ไม่ควรจะบอกลูกว่าพ่อไม่กินอันนั้นแม่ไม่กินอันนี้
เพราะเด็กจะจดจำและปฏิบัติตาม เพราะเด็กจะเห็นตัวอย่างจากพ่อแม่นั้นเอง
นอกจากนั้นการตักอาหาร พ่อแม่ก็ไม่ควรเลือกอาหารให้ลูกเห็น เช่น
เวลาตักอาหารที่มีต้นหอมก็อย่าเขี่ยต้นหอมออกให้ลูกเห็น เป็นต้น
- ปริมาณอาหารในแต่ละมื้อก็สำคัญ
เวลาที่จะตักอาหารให้ลูก ควรตักแต่น้อย เพื่อให้ลูกกินหมดได้
เมื่อลูกกินหมดได้ ลูกจะมีความภูมิใจ หากยังไม่อิ่มค่อยตักเพิ่มทีละน้อย
ให้ลูกรู้สึกว่า เขาสามารถกินอาหารได้หมด
- เมนูที่หลากหลาย
การจะหัดให้ลูกกินอาหารใหม่ ผักหรือผลไม้แบบใหม่ ควรจะค่อยๆ
เริ่มทีละน้อย โดยเวลาที่เราให้ลูกกิน พ่อแม่ควรบอกลูกว่า สิ่งนี้ชื่ออะไร
อาจจะใช้ตัวละครในนิทานมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับอาหารหรือผลไม้ที่กำลังจะกิน
นั้นๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น